จากกรณี ครอบครัวชาว จ.นครราชสีมา มาร้องขอความเป็นธรรมกับ “กัน จอมพลัง” ขอให้ช่วยเหลือ หลังถูกเพื่อนบ้านที่เป็นหนุ่มข้าราชการ มีพ่อเป็นนายตำรวจยศใหญ่ คุกคามมานานนับ 10 ปี

คุณกระแต ผู้ร้อง เล่าเหตุการณ์ว่า อยู่บ้านรั้วติดกันกับคู่กรณี คือ นายรถไฟ มานานเป็นสิบปี ตอนแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย เหตุเริ่มต้น น้องขิง ลูกสาวคนเล็กได้ไปขอยืมโทรศัพท์นายรถไฟ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกันมานาน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องกัน โดยน้องขิงได้ยืมโทรศัพท์มาใช้ประมาณ 3-4 วัน เนื่องจากโทรศัพท์เสีย แต่เมื่อคืนโทรศัพท์กลับไป ทางนายรถไฟบอกว่าโทรศัพท์ที่ยืมไปเสีย และมีการส่งซ่อมเป็นจํานวนเงิน 1,600 บาท

คุณกระแจ ตักเตือนลูกสาวไปว่า ไม่ควรเอาของคนอื่นมาใช้ และลงโทษลูกด้วยการให้ลูกนําเงินเก็บไปจ่ายคืนค่าซ่อมโทรศัพท์ แต่พอได้เงินมาจากลูก ตนป่วยก่อน ไม่ได้รับสายและยังไม่ได้คืนเงิน ทำให้มีปากเสียงกัน เขาต่อว่าด่าทอทางออนไลน์ จนตนตัดสินใจว่าไม่คืน

น้องขิง ลูกสาวของคุณกระแต ยืนยันว่า ตอนที่เอามือถือไปคืน มือถือไม่ได้เสีย และที่อ้างว่า iCloud เสีย ก็ไม่จริง เพราะตนจะไปล็อกเอาต์ของเขาได้ยังไง ตอนเกิดเรื่องเมื่อ 6 ปีก่อน ตนอายุแค่ 15 ปี ยังทำอะไรไม่เป็นเลย ยืนยันว่าไม่ได้ทำมือถือเขาพังจริงๆ

ต่อมา พ่อหมาย คุณพ่อของน้องขิง มีคดีความกับหลานสาวของตัวเอง เรื่องการโพสต์ด่า จึงไปแจ้งความหลานสาวในคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งไปแจ้งความในโรงพักในพื้นที่ ตอนแรกไปแจ้งกับร้อยเวรคนหนึ่ง แต่ว่าไปๆ มาๆ พ่อของนายรถไฟ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนที่โรงพักนั้นพอดี กลับมาทำคดีนี้ให้เอง อาสาไกล่เกลี่ยให้ 2 ฝ่าย โดยบอกว่าจะให้ฝ่ายหลานสาวชดใชเป็นเงิน 30,000 บาท

แต่ทางพ่อหมายบอกว่า ไม่อยากได้เงิน อยากให้หลานสาวมาขอโทษก็พอ แต่ทางพ่อของนายรถไฟบอกว่า ถ้าไม่อยากได้เงิน ก็ให้เขามาทำบุญกับโรงพักก็ได้ ให้ซื้อกระติกน้ำร้อน ซื้อตู้เย็นอะไรมามอบให้โรงพักก็ได้

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีการทำตามตกลงกันไว้ จนกลายเป็นรอยร้าวเพิ่มขึ้นระหว่างสองบ้าน คุณกระแตเริ่มมีปัญหาทั้งกับนายรถไฟ และพ่อของนายรถไฟ

พฤติกรรมน่ากลัวมีทั้ง เอาเครื่องตัดสัญญาณมือถือมาติด ตนเห็นลูกสาวอยู่บ้านตามลำพัง ก็เลยเอากล้องวงจรปิดมาติดที่บ้าน เขาก็ยังเอาเลเซอร์มายิงใส่เลนส์กล้อง ทำให้กล้องจะพังเสียหาย พวกตนก็ต้องเอากระจกมาติด สะท้อนให้เลเซอร์หันไปทางอื่น บางทีก็มีการเอาอะไรไม่รู้มาติดที่รั้วบ้าน

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเรื่องก็ยังไม่จบ โดยฝั่งคู่กรณีได้มีการแจ้งความกลับมาเช่นเดียวกันข้อหาหมิ่นประมาท จนมีคดีความขึ้นลงศาลกันอยู่หลายครั้ง โดยตลอดเวลาที่มีปัญหากันคู่กรณีมักมีมีพฤติกรรมชอบเอาขวดปามาในบ้านตอนกลางคืน นำปืนมาชักสไลด์เสียงดัง จนทำให้ครอบครัวเกิดความหวาดกลัว กวาดขยะแล้วเอามาเทในบ้านบ่อยครั้ง ใช้เลเซอร์ส่องใส่กล้องวงจรปิด จนได้รับความเสียหาย และทำร้ายร่างกาย โดยวันนี้มาขอให้ทาง กัน จอมพลัง

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า เบื้องต้นจะประสานไปยังอธิบดีกรมคุมครองสิทธิให้เข้ามาดูแลรวมถึงจะประสานไปยังผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาพูดคุยกัน เพราะส่วนตัวมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของเพื่อนบ้านและคงต้องอยู่ร่วมกันอีกนาน จึงอยากให้ลองมานั่งคุยกันแบบจริงๆจังๆ เชื่อว่าจะหาทางออกได้แน่

กัน จอมพลังยังบอกว่า เรื่องนี้เฉลยออกมาว่า คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเป็นญาติพี่น้องกันแท้ๆ แต่สุดท้ายมากลายเป็นคู่ความกัน อยากให้ทังสองฝ่ายมาลองเจรจา หาข้อยุติ เริ่มต้นกันใหม่ อย่างน้อยๆ ก็เป็นญาติพี่น้องกัน