รวบแล้ว! ลุงนักล้วงกระเป๋า นทท.ในวัดโพธิ์ เผยโดนจับตัวได้เพราะไม่เปลี่ยนชุด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง , พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา , รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง , พ.ต.ต.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังลัง เจ้าหน้าที่ สส.สน.พระราชวัง ร่วมกันจับกุมตัวนายเจีย (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลาง กระเป้าสะพาย สีดำ จำนวน 1 ใบ , แผ่นฟอยล์ สีเงิน พร้อมเทปใส จำนวน 1 แผ่น , ชุดที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุลักทรัพย์ (ล้วงกระเป๋า) ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. ก่อเหตุ วันที่ 25 ส.ค.67 ต่อเนื่อง 30 ส.ค.67

การจับกุม หลังจากมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สน.พระราชวัง ว่าถูกลักทรัพย์ภายในวัดพระเชตุพนฯ อยู่บ่อยครั้ง โดยครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ส.ค.67 เวลาประมาณ 13.30 น. นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นถูกลักทรัพย์ เป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ก่อเหตุ เป็นชายรูปร่างสูงผอม สีผิวดำแดง สวมหมวกแก๊ปสีขาว เสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ และจะสะพายกระเป๋าไว้ข้างหน้า มือข้างหนึ่งจะถือเสื้อแขนยาวสีดำ เพื่อปกปิดการก่อเหตุ

และเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 25 ส.ค.67 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในวัดพระเชตุพนฯ พบชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณการแต่งกาย คล้ายกับคนร้ายที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.67 ยืนอยู่บริเวณหน้าวิหารพระพุทธไสยาสน์ ภายในวัดพระเชตุพนฯ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเข้าไปสอบถามทราบชื่อ นายเจีย ซึ่งสามารถพูดภาษาไทย อ่านและเขียนภาษาไทยได้

เมื่อขอตรวจสอบเอกสาร กลับไม่สามารถนำมาแสดงได้ และยอมรับว่า เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาทางช่องทางธรรมชาติ ด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อยู่เป็นประจำ ล่าสุดเข้ามาวันที่ 25 มิ.ย.67 แต่ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวในวัดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และเตรียมผลักดันกลับประเทศ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และทำรายงานการสืบสวน จนสามารถยืนยันตัวตนว่าคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์(ล้วงกระเป๋า) นักท่องเที่ยวในวัดตามภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 12 ส.ค.67 คือนายเจีย ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณ และการแต่งตัวตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุทุกประการ

กระทั่ง นายนายเจีย ได้ยอมรับสารภาพว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับภาพกล้องวงจรปิด และได้ล้วงกระเป๋าเอามือถือของนักท่องเที่ยวไปจริง ซึ่งเมื่อได้มือถือมา ก็จะปิดเครื่องและนำแผ่นฟอยล์ สีเงิน มาห่อหุ้มไว้ เพื่อไม่ให้จับสัญญาณจีพีเอสได้ ก่อนจะส่งรถขนส่งเอกชนไปที่ชายแดนอรัญประเทศ จากนั้น จะมีคนมารับช่วงต่อ นำไปขายในประเทศกัมพูชา เครื่องละ 1,000-5,000 บาท แล้วแต่รุ่นของโทรศัพท์มือถือ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในสถานที่บูชาสาธารณะ” และ “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป