เช็กที่นี่! ปภ.เปิดรายชื่อ 31 จังหวัดทั่วไทย เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน – คลื่นลมแรง ระหว่าง 26 – 29 ส.ค. นี้(26ส.ค.67) เวลา 11.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 31 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 26 – 29 ส.ค. 67 กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (149/2567) ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2567 ร่องมรสุม จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยในช่วงวันที่ 27 – 29 สิงหาคม 2567 ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์ระหว่างวันที่ 26 – 29 สิงหาคม 2567 แยกเป็น
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่
- แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า)
- เชียงใหม่ (อ.แม่อาย อ.ฝาง อ.เชียงดาว อ.ไชยปราการ อ.พร้าว อ.จอมทอง อ.ฮอด)
- เชียงราย (อ.เมืองฯ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.แม่จัน อ.เวียงชัย อ.พญาเม็งราย อ.เวียงแก่น อ.ขุนตาล อ.เทิง อ.ป่าแดด อ.พาน)
- ลำปาง (อ.วังเหนือ อ.เมืองปาน อ.งาว อ.เสริมงาม)
- พะเยา (อ.ภูซาง อ.ปง อ.เชียงคำ อ.จุน อ.ดอกคำใต้ อ.ภูกามยาว)
- แพร่ (อ.เมืองฯ อ.สอง อ.เด่นชัย อ.วังชิ้น)
- น่าน (อ.เมืองฯ อ.สองแคว อ.ทุ่งช้าง อ.เชียงกลาง อ.ท่าวังผา อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ปัว อ.บ่อเกลือ)
- อุตรดิตถ์ (อ.เมืองฯ อ.ท่าปลา อ.ทองแสนขัน)
- ตาก (อ.เมืองฯ อ.ท่าสองยาง อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด)
- สุโขทัย (อ.ศรีสัชนาลัย อ.ทุ่งเสลี่ยม)
- พิษณุโลก (อ.วังทอง อ.ชาติตระการ อ.วัดโบสถ์ อ.นครไทย)
- เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ อ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่
- เลย (อ.นาแห้ว อ.ด่านซ้าย อ.ภูเรือ อ.ท่าลี่ อ.เชียงคาน)
- หนองคาย (อ.เมืองฯ อ.สังคม)
- บึงกาฬ (อ.เมืองฯ อ.บุ่งคล้า อ.เซกา อ.โซ่พิสัย)
- หนองบัวลำภู (อ.สุวรรณคูหา)
- อุดรธานี (อ.นายูง อ.บ้านดุง อ.น้ำโสม)
ภาคกลาง 8 จังหวัด ได้แก่
- กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ)
- นครนายก (อ.เมืองฯ อ.ปากพลี)
- ปราจีนบุรี (อ.กบินทร์บุรี อ.นาดี)
- ชลบุรี (อ.ศรีราชา อ.บางละมุง)
- ระยอง (อ.เมืองฯ อ.แกลง อ.บ้านค่าย)
- จันทบุรี (อ.เมืองฯ อ.เขาคิชฌกูฏ อ.สอยดาว อ.โป่งน้ำร้อน อ.มะขาม อ.ขลุง)
- ตราด (ทุกอำเภอ)
- ประจวบคีรีขันธ์ (อ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย)
ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่
- ระนอง (ทุกอำเภอ)
- พังงา (อ.เมืองฯ อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง อ.ท้ายเหมือง)
- ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
- กระบี่ (อ.เมืองฯ อ.เหนือคลอง อ.อ่าวลึก อ.คลองท่อม อ.ปลายพระยา อ.เกาะลันตา)
- ตรัง (อ.เมืองฯ อ.ปะเหลียน อ.นาโยง อ.กันตัง อ.สิเกา อ.ห้วยยอด อ.วังวิเศษ)
- สตูล (อ.เมืองฯ อ.ควนโดน อ.ควนกาหลง อ.ทุ่งหว้า อ.มะนัง)
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง
- ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง (อ.เมืองฯ อ.สุขสำราญ อ.กะเปอร์)
- พังงา (อ.เกาะยาว อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ท้ายเหมือง อ.ตะกั่วป่า อ.คุระบุรี)
- ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 31 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักบางพื้นที่ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง
โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ สภาพน้ำ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ตลอดจนแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบแจ้งเตือนไปยังชาวเรือ ผู้บังคับเรือ และผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหากสถานการณ์มีความรุนแรงขึ้น ให้จังหวัดพิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้หากประเมินสถานการณ์แล้ว คาดว่าสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงหรือขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ให้จังหวัดเตรียมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เครื่องจักรกลสาธารณภัย และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมออกช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ สถานการณ์น้ำ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในระยะนี้ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ประกาศการแจ้งเตือนภัย สถานการณ์น้ำในพื้นที่ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น
โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- น้ำเทิงลด-ขุนตาลท่วมแทน กระทบชาวบ้าน 1,500 หลังคาเรือน
- “น้ำยม” ท่วมแต่เช้า ปิดถนนศรีสำโรง-สุโขทัย ช่วง ต.วังใหญ่
- เตือน 10 จว. – กทม. เฝ้าระวังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูง ตั้งแต่ 26 ส.ค. 67